วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ส่งท้ายปีเก่าที่โรงเรียน

วันสุดท้ายของปี 2015(2558)ที่ร.ร.ราชโบริกานุเคราะห์ ของเรา
เช้าครู นักเรียน ทำบุญตักบาตร ร่วมกัน (พระวัดนาหนอง )



กลางวันกินอาหารร่วมกันกับนักเรียน 1.6  ที่ห้องเกษตร  จัดเกมส์ให้นักเรียน 2 เกมส์   
ให้นักเรียนจับสลากแลกของขวัญ เราเอา flat drive ไปจับของขวัญกับนักเรียน เราจับได้ผ้าห่มนาโน 
ปีนี้มีของขวัญใหม่ให้นักเรียนคนละ 1 ชิ้น นักเรียนจับฉลากว่าได้อะไรของไม่เหมือนกัน 


มีนักเรียนประจำชั้นปีที่แล้ว  (ม.3.8 ปี2557)มาเที่ยวหาด้วย  





มีดาราช่อง 7 มาถ่ายรายการเกี่ยวกับ พีพี ศิษย์เก่าที่ไปเป็นดารา (นางเอกเรื่องสาวน้อยอ้อยควั่น) ที่ร.ร.ด้วย 




กลางคืนมีงานกินเลี้ยงปีใหม่ของคณะครู Theme งานแต่งแฟนซีแต่มีคนแต่งแฟนซีไม่ถึงครึง


ได้ของขวัญปีใหม่เป็นเงินขวัญถุง 100 บาท 


ขอให้เราแฮปปี้ แฮปปี้ปี2559

วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2558

วิ่ง10กิโลครั้งแรก งานปลาทู

  


                                              

ในที่สุดก็กล้าหาญลงสนามจริง 10 กิโลเมตรครั้งแรก  ตัดสินใจสมัครทั้งที่ยังไม่เคยเดินวิ่งได้ระยะทาง 
10 กิโลเมตรมาก่อนสักครั้ง  ตัดสินใจเป็นไงเป็นกัน คนอื่นทำได้เราต้องทำได้


เสียเงินสมัครเรียบร้อย จริงจังล่ะทีนี้ เริ่มซ้อมเดินบ้างวิ่งบ้าง ตอนเย็นวันละ 3 - 5 กิโลเมตร  ส่วนมาก
เป็นการเดินมากกว่า ยังไงก็ต้องเดินไปให้ถึงเส้นชัยให้ได้  สัปดาห์สุดท้ายก่อนถึงวันจริงกัดฟันเดินรอบสนามกีฬา 10 กิโลเมตร ได้ 2 ครั้ง ปลื้มใจมากเหมือนกับว่าได้ลงสนามจริงแล้ว คิดว่าเราต้องเข้าเส้นชัยได้แน่และคงไม่ใช่เข้าเส้นชัยเป็นสุดท้ายแน่นอน


แล้ววันจริงก็มาถึง ด้วยความมุ่งมั่นออกจากบ้านตั้งแต่ตี 4ครึ่ง  ถึงงานตี 5 ครึ่ง ไปรับเสื้อเบอร์เสร็จ  
ยังไม่ทำอะไรขอถ่ายรูปก่อนให้ชื่นใจ


      การซ้อมกับการลงสนามจริงคนละความรู้สึกกันเลย  ตอนซ้อมเบื่อหน่าย คิดแต่ว่าเมื่อไหร่จะครบ 10 กิโลเมตรสักที  สนามจริงมีเพื่อนร่วมทางมากมาย สถานที่แปลกใหม่ วิวทิวทัศน์ร่มรื่น ความเบื่อหน่ายไม่มีจะมีก็แต่ความเมื่อย แล้วก็ความฮึดที่จะไม่ยอมเป็นคนสุดท้าย


 งานนี้ได้บทเรียนสำคัญสำหรับนักวิ่งมือใหม่อย่างเรา ว่าอย่าบ้าตามคนอื่น เห็นเขาวิ่งอย่าวิ่งตาม ต้องรู้จักประมาณตนเอง  ไม่งั้นจะไปไม่ถึงเส้นชัยเพราะจะบาดเจ็บซะก่อน  เหมือนกับที่เราบ้าวิ่งตั้งแต่เริ่มต้นปล่อยตัวจากจุดสตาร์ท วิ่งไปได้ไม่ถึงกิโล รู้สึกปวดหน้าแข้งมากจนต้องหยุดเดิน เดินก็เจ็บมากคิดในใจเราจะไปรอดมั้ย ใจสู้เดินไปเรื่อยๆ พอถึงกิโลเมตรที่  3 แปลกใจทำไมหายปวดได้ทั้งที่ตอนแรกปวดมาก  ก็เดินต่อไปอีกพักเริ่มลองวิ่ง สลับเดิน คราวนี้ไม่ปวดแล้ว พอมั่นใจว่าไปต่อได้ไม่ปวดแน่  ก็เดินๆ วิ่ง ๆ จนเข้าเส้นชัยได้ ย้อนคิดดูแล้วที่ปวดคงเพราะเรายืดเส้นไม่พอ วอร์มน้อย รีบวิ่งเลย  ทำให้ปวดเส้น พอเดินวอร์มถึงจุดเส้นยืดดีแล้วจึงหายปวด  เข็ดแล้วจ้า ต่อไปไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว


นักวิ่งแฟนซี นางแบบปลาทู สีสันของงาน


 หมีน้อยน่ารักขอป้าถ่ายรูปด้วย หมีเห็นป้าแก่ไม่ค่อยสนใจป้าเลย



ในที่สุดเราก็ทำได้ วิ่ง 10 กิโลเมตร 


ปลื้ม และ ปลื้ม และปลื้ม 


วิ่งเสร็จกินอาหารอิ่มแปร้ แถมรับของแจกกลับบ้านเพียบ ความสุขเล็ก ๆ จากการวิ่ง

 
ครั้งแรกเวลาเท่านี้ก็ไม่ขี้เหร่นะ ปลื้มใจจริงๆ นี่ละมั้งที่ทำให้คนหลงไหลการวิ่ง